บุพเพสันนิวาส เป็นละครโทรทัศน์แนวย้อนยุค ออกฉายครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ผลิตโดยบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด เขียนบทโทรทัศน์โดยศัลยา ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของรอมแพง กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ นำแสดงโดย ธนวรรธน์ วรรธนะภูติราณี แคมเปนหลุยส์ สก๊อตสุษิรา แน่นหนาปรมะ อิ่มอโนทัย และกัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกลในยุคปัจจุบัน เกศสุรางค์นักโบราณคดีวัย 25 ปี มีความรู้ภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างดี เธอมีเพื่อนสนิทที่แอบชอบอยู่คือเรืองฤทธิ์ วันหนึ่งทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ภายหลังจากต้องหนีวิญญาณของหญิงสาวคนหนึ่ง ขณะเดียวกันในรัชกาล สมเด็จพระนารายณ์มหาราช แม่หญิงการะเกดซึ่งเป็นที่หมั้นหมายต่อพ่อเดชรู้สึกอิจฉาต่อแม่หญิงจันทร์วาด บุตรสาวของ โกษาเหล็ก จึงสั่งให้บ่าวคนสนิทอย่างนางผินและนางแย้มไปล่มเรือแต่คนที่เสียชีวิตครั้งนี้คือนางแดง บ่าวของแม่หญิงจันทร์วาดส่วนแม่หญิงจันทร์วาดรอดชีวิต ออกญาโหราธิบดีซึ่งเป็นบิดาของพ่อเดชไม่เชื่อในคำกล่าวหาของลูกชายจึงพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของแม่หญิงการะเกดด้วยการร่ายมนต์กฤษณกาลี ผู้ใดที่คิดร้ายจะสิ้นใจตายซึ่งก็มีผลทำให้แม่หญิงการะเกดสิ้นใจตาย วิญญาณแม่หญิงการะเกดหลุดออกจากร่างไปพบวิญญาณของเกศสุรางค์ แม่หญิงการะเกดสำนึกตัวเอง ขอให้เกศสุรางค์ทำความดีเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าแม่หญิงการะเกดก็ทำความดีได้และกลับไปเข้าร่างแม่หญิงการะเกด พอเกศสุรางค์ตื่นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในร่างแม่หญิงการะเกด
เกศสุรางค์ในร่างแม่หญิงการะเกดได้ทำความคุ้นเคยกับพ่อเดช ทำให้เริ่มคลายความเกลียดชัง ต่อมาแม่หญิงการะเกดได้พบกับหมื่นเรืองราชภักดีซึ่งหน้าตาคล้ายกับเรืองฤทธิ์เพื่อนสนิทในยุคปัจจุบันที่เธอแอบชอบ เกศสุรางค์ยังได้รู้จักกับ มารี กีมาร์ (ท้าวทองกีบม้า) หรือแม่มะลิ ขณะที่คุณพ่อของเธอคือฟานิก ถูกคนของออกหลวงสุรสาคร ข้าราชการชาวกรีกรังแกเพราะหวังจะให้ยกลูกสาวให้ เกศสุรางค์ช่วยโต้เถียงเป็นภาษาฝรั่งเศสจนเป็นที่เป็นเรื่องฮือฮาแต่ในที่สุดแม่มะลิก็ต้องแต่งงานกับออกหลวงสุรสาครหรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน ด้วยความจำใจ จากนั้นเกศสุรางค์ได้กระทำหลายสิ่งหลายอย่างจนเป็นที่โจษจันในหมู่ชาวบ้าน ขณะเดียวกันเกศสุรางค์ยังได้พบกับบุคคลในประวัติศาสตร์อีกหลายท่านอาทิ หลวงสรศักดิ์, ออกพระเพทราชา, ออกพระวิสูตรสุนทรหรือ โกษาปาน เป็นต้น ต่อมาหมื่นสุนทรเทวาได้อวยยศขึ้นเป็น "ขุนศรีวิสารวาจา" ก็ได้กราบเรียนออกญาโหราธิบดีและคุณหญิงจำปาผู้เป็นมารดาว่าจะแต่งงานกับเกศสุรางค์ในร่างแม่หญิงการะเกด ทำให้วิญญาณของแม่หญิงการะเกดเสียใจมากและมาตัดพ้อเกศสุรางค์ว่าจะแย่งพ่อเดชไปจากตน ทำให้เกศสุรางค์ต้องรับปากแม่หญิงการะเกดด้วยการปฏิเสธไปทั้ง ๆ ที่รักพ่อเดชแต่ในที่สุดความดีที่เกศสุรางค์ได้ทำไว้ส่งผลให้วิญญาณของแม่หญิงการะเกดจะได้ไปเกิดใหม่ ทำให้แม่หญิงการะเกดตัดสินใจยกพ่อเดชให้เกศสุรางค์ ต่อมาขุนศรีวิสารวาจาต้องเป็นตรีทูตไปฝรั่งเศส เกศสุรางค์จึงยกหมอนที่ตัวเองหนุนนอนให้ออกขุนศรีไว้ดูต่างหน้ากระทั่งออกขุนศรีกลับมายังกรุงศรีอยุธยาก็ได้รับการอวยยศเป็น "พระศรีวิสารสุนทร"
อีกด้านยศหมื่นเรืองราชภักดีได้อวยยศเป็น "ขุนเรืองอภัยภักดี" ก็พยายามจะสานสัมพันธ์กับแม่หญิงจันทร์วาดหลังจากที่โกษาเหล็กซึ่งดำรงตำแหน่งสมุหพระกลาโหมและควบตำแหน่งเจ้ากรมคลังถูกโบยจนเสียชีวิตเนื่องจากคดีรับสินบนตามคำทูลฟ้องของออกหลวงสุรสาคร ซึ่งต่อมาได้รับการอวยยศเป็น "ออกพระฤทธิ์กำแหง" จนถูกริบทรัพย์แต่คุณหญิงนิ่มภรรยาของโกษาเหล็กและเป็นมารดาของแม่หญิงจันทร์วาดไม่ชอบใจเพราะขุนเรืองเป็นบุตรชายของคุณพระเรือนแพไม่คู่ควรกับบุตรสาวของตน ขุนเรืองจึงขอความช่วยเหลือจากเกศสุรางค์ เธอจึงให้ขุนเรืองหาสิ่งของไปกำนันเพื่อเอาชนะใจคุณหญิงนิ่มจนในที่สุดคุณหญิงนิ่มก็ใจอ่อนยอมยกแม่หญิงจันทร์วาดให้กับขุนเรือง จากนั้นไม่นานขุนเรืองอภัยภักดีก็ได้รับการอวยยศเป็น "หมื่นเรืองณรงค์เดชา"
วันหนึ่งเกศสุรางค์พบบทสวดมนต์กฤษณกาลีในห้องทำงานของออกญาโหราธิบดีแต่เมื่อเธอแตะมือลง ทำให้วิญญาณออกจากร่าง พ่อเดชเข้ามาพอดีและเห็นร่างไร้วิญญาณของแม่หญิงการะเกดก็อุ้มนางเข้าไปทำพิธีร่ายมนต์กฤษณกาลีส่วนวิญญาณของเกศสุรางค์ล่องลอยอยู่ไร้จุดหมาย อาจารย์ชีปะขาวก็อธิบายให้วิญญาณของเกศสุรางค์จนได้รู้ว่าตนเองนั้นมีฝาแฝดและส่งเธอกลับมายังโลกปัจจุบันจนได้พบว่าเรืองฤทธิ์ขอบวชตลอดชีวิต
เกศสุรางค์เห็นเงาของพ่อเดชในร่างของเรืองฤทธิ์จึงรู้ว่าเรืองฤทธิ์คือพ่อเดชมาเกิดใหม่ เกศสุรางค์ก็ได้ยินมนต์กฤษณกาลีอีกครั้ง เธอรู้ว่าไม่สามารถใช้ชีวิตในปัจจุบันได้แล้วจึงกราบลาคุณแม่และคุณยายกลับไปยังร่างแม่หญิงการะเกดอีกครั้ง พอฟื้นขึ้นมาในอดีตชาติพบว่าพ่อเดชนั่งท่องมนต์มาหลายวันก็สวมกอดร่างของเธอเอาไว้แน่น พ่อเดชไม่สนใจว่าเธอเป็นใครมาจากไหนและบอกว่าจะรักเธอตลอดไป

Comments

Popular posts from this blog

ยุคคลาสสิก